LAN  คืออะไร ?

LAN เป็นคำย่อของ Local Area Network ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง สาย LAN คือ สายที่เชื่อมต่อไปยังคอมพิวเตอร์, เน็ตเวิร์คสวิตซ์ (Network Switch) รวมไปถึงสายที่เชื่อมจากเน็ตเวิร์คสวิตซ์ ไปยังเราเตอร์ (Router), โมเด็ม (Modem) และอื่นๆ 

 

สายแลนแบ่งตามลักษณะการติดตั้ง

สายแลนสามารถติดตั้งได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร แน่นอนว่าสภาพแวดล้อม การใช้งาน การเดินสายมีความแตกต่ากกัน ทำให้ตัวสายเองก็มีความแตกต่างกันด้วยเช่นกัน



สายแลนชนิดติดตั้งภายในอาคาร (Indoor Cable)

ตัวสายจึงเป็นการหุ้มวัสดุ PVC ที่มีความยืดหยุ่นสูงแทน เพื่อให้สามารถร้อยสายไปตามจุดต่างๆ บนผนัง และลดการลามของไฟได้ดี มีข้อกำหนดหรือมาตรฐานป้องกันทางด้านอัคคีภัย มีการเพิ่มสายพิเศษเข้าไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน จึงสามารถแบ่งได้ออกมาเป็น 4 ประเภทย่อยดังนี้


1. CM (Communication Metallic) : เป็นสายที่สามารถป้องกันการลามไฟได้ในแนวราบ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างการติดตั้งสายแนวราบภายในชั้นเดียวกัน


2. CMR (Communication Metallic Riser) : สายชนิดนี้สามารถป้องกันการลามไฟทั้งแนวราบและแนวดิ่ง มักใช้ในการเดินสายสัญญาณ ระหว่างชั้นในอาคาร โดยผ่านช่องเดินสายของตัวอาคาร


3. CMP (Communication Metallic Plenum) : เป็นสายที่เหมาะสำหรับการเดินสายบนฝ้าเพดาน หรือบริเวณช่องว่างเหนือฝ้าที่มีอากาศไหลเวียน แต่ไม่สามารถป้องกันการลามไฟในแนวดิ่งได้


4. LSZH (Low Smoke Zero Halogen) : สามารถป้องกันการลามไฟได้ทั้งในแนวราบและแนวดิ่งเหมือน CMR แต่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมคือเมื่อเกิดอัคคีภัย สายชนิดนี้จะมีควันน้อยและไม่ก่อให้เกิดสารพิษ

 


สายแลนชนิดติดตั้งภายนอกอาคาร (Outdoor Cable)

สายสัญญาณที่ทำมาเพื่อติดตั้งภายนอกตัวอาคารซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกอย่างมาก มีเปลือกนอกทำจากวัสดุ PE (Polyethylene) ไม่สึกกร่อนแต่จะไม่สามารถป้องกันการลามไฟได้จึงควรเลือกสายแลนภายนอกให้ถูกต้อง ตามชนิดของการใช้ให้เหมาะสมรูปแบบการใช้งานและสถานที่

 


โครงสร้างและ Category ของสายแลน 

CAT นั้นย่อมาจาก Category หมายถึงการระบุเวอร์ชันของข้อมูลจำเพาะที่ซึ่งสายเคเบิลเส้นนั้นสามารถรองรับได้ ส่วนCAT ที่มีตัวเลขต่อท้ายคืออะไร ไปดูกัน Category. ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด

สายแลน LAN CAT5e, CAT6, CAT7, CAT7a กับ CAT8 ต่างกันอย่างไร

 CAT 5e  เป็นสายที่มีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบันนี้ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำ และความเร็ว 1,000Mbps / 1Gbps ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร

CAT6 ออกแบบมาเพื่อรองรับ Bandwidth อยู่ที่ 250 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gbps ในระยะห่างไม่เกิน 55 เมตร สายแลน CAT6 ถ้าหากเอามาใช้กับระบบเครือข่ายที่มีความเร็วไม่เกิน 100Mbps คุณภาพของสัญญาณและความเร็วที่ได้จะไม่แตกต่างจากสายแลนแบบ CAT5e สายแลน ตามมาตรฐานแล้วสามารถเดินได้ไกลถึง 100 เมตร แต่การใช้งานจริงเพื่อความเสถียรของสัญญาณเราไม่ควรเดินสายไกลเกิน 80 เมตร สายแลนแบบ CAT6 เนื่องจากมีทองแดงขนาดใหญ่จึงสามารถเดินได้ระยะไกลเต็ม 100 เมตร ไม่ควรเดิน สายแลน ใกล้สายไฟฟ้าเ

 นื่องจากจะทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้ารบกวนกัน ตามมาตรฐานแล้วควรเดินสายแลนห่างจากสายไฟฟ้าอย่างต่ำ  15 เซนติเมตร เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน

cat6 กับ cat6e แตกต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบ

UTP CAT6 คือ สายแลนที่เป็นสายทองแดงที่มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gpbs BANWIDTH อยู่ที่ 250MHz ขึ้นไป

                                                                                        VS

UTP CAT6A คือ สายแลนที่เป็นสายทองแดงที่มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gpbs BANWIDTH อยู่ที่ 500MHz ขึ้นไป

CAT6A หากมองในระยะยาวแล้ว CAT 6a เป็นสายที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน มันมีโปรโตคอล A/V ในตัว ทำให้รองรับการใช้งานแทนสาย HDMI ได้ด้วย สาย CAT 6a ต่างจาก CAT 6 ตรงที่แบนด์วิธขยับเพิ่มมาเป็น 500 MHz นอกจากนี้ ภายในตัวสายยังมีฉนวนเพื่อลดปัญหาสัญญารบกวน ทำให้มีเสถียรภาพสูงแม้จะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณอื่นรบกวนสูง
เรื่องความยาวก็ไม่มีปัญหาเหมือนกับ CAT 6 สามารถทำความเร็วสูงสุด  10 Gbps ที่ความยาวสายสูงสุด 100 เมตร CAT6A นั้นจะใช้งานตาม Data Center เป็นหลัก
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้สาย CAT 6a เป็นสายที่เราคิดว่าน่าใช้งานที่สุดในปัจจุบันนี้

CAT 7 เป็นสาย LAN รุ่นแรกที่รองรับความเร็วระดับ 10 Gbps ที่ความยาว 100 เมตร แบนด์วิธก็สูงถึง 600 MHz สูงกว่า CAT 6 แต่โดยรวมแล้วสเปกของมันก็ใกล้เคียงกับ CAT 6a

CAT 7a มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล คือ 10 Gbps  CAT 7a จะมีแบนด์วิธ 1000 MHz (Class FA) ที่ความยาวไม่เกิน 100 เมตร 

CAT8 รองรับความเร็วสูงสุด 40Gbps ระยะไม่เกิน 30 เมตรและ 10 Gbps ในระยะไม่เกิน 100 เมตร สายแลน CAT8 นั้นกำลังจะเข้ามาแทนที่ CAT6A ในอนาคตอันใกล้นี้  CAT8 จะเน้นใช้งานใน Data Center เป็นหลัก

การเลือกใช้สายแลนแบบ

1. UTP ย่อมาจาก Unshielded Twisted Pair – เป็นสายแลนแบบตีเกลียวที่ไม่มีชิลด์ ใช้งานตามบ้านหรือสำนักงาน ราคาไม่แพง ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ระดับนึง

2. F/UTP โดยตัว F มาจาก Foil  – เป็นสายแลนแบบหุ้มฟรอยด์ สำหรับการป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องเดินคู่กับสายไฟฟ้าแรงสูง

3. S/FTP และ SF/UTP ตัว S มาจาก Shield – โดยตัวสายหุ้มด้วยฟรอยด์ และชิลด์ถักอีกชั้นนึง ทำให้สามารถกันสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะกับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ และมีราคาแพงที่สุด คุณภาพสูง การรับส่งสัญญาณไม่สะดุด